So What - แจ๊สที่ชวนให้คิดทบทวนและส่ายหัวตาม

“So What” เป็นผลงานแจ๊สสุดคลาสสิกจากวง Miles Davis Quintet ที่ปล่อยออกมาในปี 1959 และกลายเป็นหนึ่งในเพลงที่โดดเด่นที่สุดของประเภท modal jazz ซึ่งแตกต่างจากแนวแจ๊สแบบ tradition หรือ bebop ที่เน้น chord progression ที่ซับซ้อน “So What” สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ modal scales ซึ่งหมายความว่า

เพลงจะใช้ scale เพียงไม่กี่ scale และให้ improvisations ของนักดนตรีมีอิสระมากขึ้น

เพลงนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการทดลองทางดนตรีและความกล้าหาญในการหักล้างขนบธรรมเนียมในยุคนั้น “So What” ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลงานแจ๊สที่ทรงอิทธิพลที่สุดและยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

การถือกำเนิดของ “So What”

เพลง “So What” เกิดขึ้นจากจินตนาการของ Miles Davis และบันทึกเสียงเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม ปี 1959 ในสตูดิโอของ Columbia Records ในนิวยอร์ก ซิตี้

Miles Davis เป็นนักทรัมเป็ตและผู้นำวงดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้น และวง Miles Davis Quintet ที่เขาเป็นหัวหน้าก็รวมไปถึงนักดนตรีฝีมือเยี่ยม

John Coltrane - นักแซกโซโฟน Cannonball Adderley - แซกโซโฟน อัลโต Bill Evans - เปียโน Paul Chambers - เบส Jimmy Cobb - กลอง

ลึ่กเข้าไปใน “So What”

“So What” มีโครงสร้างที่เรียบง่าย แต่ล้ำลึก

• Part A: เริ่มต้นด้วย melodie ที่ชวนให้คิดทบทวนและไพเราะ ซึ่งร้องโดย Miles Davis บนทรัมเป็ต
• Part B: ต่อเนื่องด้วย solo ของ John Coltrane
• Part C: Bill Evans เข้ามาแสดงฝีมือบนเปียโน
• Part D: Cannonball Adderley ร่วมด้วยในส่วนนี้ด้วยแซกโซโฟน

“So What” ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ดนตรีว่าเป็นหนึ่งในเพลงแจ๊สที่ทรงอิทธิพลที่สุดและยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

ความหมายที่ซ่อนอยู่

“So What” เป็นเพลงที่เปิดกว้างต่อการตีความ บางคนมองว่าเนื้อร้องของเพลงแสดงถึงความสงสัยและความไม่แน่นอนในชีวิต

ขณะที่คนอื่นๆ มองว่าเป็นการแสดงออกถึงความอิสระและความสร้างสรรค์

ไม่ว่าจะตีความอย่างไร “So What” ก็เป็นเพลงแจ๊สที่ทรงพลังและน่าจดจำ

วิธีการเล่น “So What”

การได้รับความนิยมของ “So What”

หลังจากที่ปล่อยออกมา “So What” ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และกลายเป็นเพลงแจ๊สยอดนิยม

เพลงนี้ได้ถูกนำมาแสดงในคอนเสิร์ตและบันทึกเสียงใหม่หลายครั้ง และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้

บทสรุป

“So What” เป็นเพลงแจ๊สที่ทรงอิทธิพล และเป็นตัวอย่างของความกล้าหาญในการทดลองทางดนตรี

เพลงนี้ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่นักดนตรีแจ๊สมองและเล่นดนตรี

และยังคงเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้