Reign In Blood : รัวหนัก อัดแน่นไปด้วยความโหดร้าย

Reign In Blood เป็นอัลบั้มเปิดตัวของวง thrash metal ยอดฝีมือ Slayer ซึ่งปล่อยออกมาในปี 1986 สังกัดค่าย Def Jam Recordings อัลบั้มนี้ถูกยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ heavy metal และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองสำหรับวง Slayer

Reign In Blood เป็นอัลบั้มที่รุนแรงและโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อ โดยมีเนื้อหาเพลงที่มุ่งเน้นไปที่ความตาย ความรันทด การทำลายล้าง และเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เพลงในอัลบั้มนี้ถูกขับเคลื่อนด้วย riff กีตาร์ที่หนักหน่วง โซโล่ที่รวดเร็วและ aggressiveness ของ Kerry King and Jeff Hanneman

เนื้อหาของเพลงยังคงเป็นประเด็นถกเถียงมาโดยตลอด โดยกลุ่มอนุรักษนิยมวิพากษ์วิจารณ์ความโหดเหี้ยมของเนื้อเพลง ซึ่ง Slayer ตอบโต้ว่าพวกเขาไม่ได้ร้องเพลงเพื่อสนับสนุนความรุนแรง แต่ต้องการแสดงออกถึงความหดหู่และความมืดมิดที่เป็นส่วนหนึ่งของโลก

Reign in Blood เป็นอัลบั้มที่สั้นแต่ทรงพลัง มีความยาวเพียง 28 นาทีเท่านั้น แต่มี 10 เพลงที่เต็มไปด้วยพลังอันน่าทึ่ง การเรียบเรียงเพลงมีความกระชับและคมกริบ โดยไม่มีส่วนที่ยืดเยื้อหรือน่าเบื่อ

รายชื่อเพลงใน Reign in Blood:

Slayer : บรรดาอาจารย์แห่งความโหดร้าย

Slayer ก่อตั้งขึ้นในฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย ในปี 1981 โดย Kerry King, Jeff Hanneman, Tom Araya และ Dave Lombardo วงดนตรีนี้ได้สร้างชื่อเสียงด้วยการเล่นเพลง thrash metal ที่รุนแรงและอัดแน่นไปด้วยพลัง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากวง heavy metal ยุคแรกๆ เช่น Judas Priest, Iron Maiden และ Motörhead

Slayer มีความโดดเด่นด้วยการแสดงบนเวทีที่โหดเหี้ยมและน่าจดจำ Tom Araya ผู้ร้องนำของวงได้สร้างสรรค์บุคลิก onstage ที่ดุเดือดและโกรธแค้น ในขณะที่ Kerry King และ Jeff Hanneman เป็นกีตาร์ริสที่มีฝีมือเลิศและสร้าง riff กีตาร์ที่น่าจดจำ

Dave Lombardo มือกลองของวง เป็นที่รู้จักในความรวดเร็วและแม่นยำในการตีกลอง ซึ่งทำให้ Slayer มีชื่อเสียงในด้านความหนักหน่วงและความโหดเหี้ยมของดนตรี

Reign in Blood: มรดกแห่งความโหดร้าย

Reign in Blood เป็นอัลบั้มที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงโดยนักวิจารณ์ดนตรี และได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในอัลบั้ม heavy metal ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

อัลบั้มนี้มีอิทธิพลต่อวง thrash metal อื่นๆ อย่างมาก และช่วยสร้างความนิยมให้กับ subgenre นี้

Reign in Blood ยังคงเป็นงานที่ฟังสนุกและน่าตื่นเต้นแม้ในปัจจุบัน ซึ่งพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่และการยืนยาวของ Slayer