Fourth World : เพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่หลอมรวมเสียงธรรมชาติกับความเป็นอวกาศในแบบเหนือจริง

“Fourth World” เป็นผลงานดนตรีของนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ Brian Eno ที่ถูกปล่อยออกมาในปี 1982 ผ่านสังกัด Opal/EG Records อัลบั้มนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแนวเพลง “Ambient music” ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่

Eno ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากผลงานร่วมกับวง Roxy Music และ David Bowie มีความสนใจในแนวคิดที่ว่า “ดนตรีควรจะเป็นพื้นหลังของชีวิต” และไม่จำเป็นต้องเป็นศูนย์กลางความสนใจเสมอไป

“Fourth World” จึงถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสงบ โดยนำเอาเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล และเสียงลมโชย มาผสมผสานกับ synthesizer และเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ

ผลลัพธ์ที่ได้คือ “Fourth World” เป็นอัลบั้มที่มีความเป็นอวกาศและลึกลับอย่างมาก

การผสมผสานระหว่างเสียงธรรมชาติและเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์

สถานที่บันทึก	เครื่องดนตรีที่ใช้
The Manor Studios, Oxfordshire, England	Synthesizer (Oberheim OB-Xa, Prophet 5), sampler, tape loops, guitar, percussion

Brian Eno มุ่งเน้นในการสร้าง “ดนตรีสภาพแวดล้อม” หรือ ambient music ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างบรรยากาศและอารมณ์มากกว่าที่จะเน้นไปที่จังหวะหรือทำนอง

Eno ใช้เทคนิคการบันทึกเสียงที่เรียกว่า “looping” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบันทึกเสียงส่วนหนึ่งแล้วเล่นซ้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อสร้างความต่อเนื่องและหลงลืมเวลา

ใน “Fourth World”, Eno ได้นำเอาเสียงธรรมชาติจากแหล่งต่างๆ มาใช้เป็น loop และผสมผสานเข้ากับ synthesizer และเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ

เสียงของนก, ลม, และน้ำไหลถูกแปรรูปอย่างประณีตเพื่อสร้างความรู้สึกที่ลึกลับและเหนือจริง

**

อิทธิพลและมรดกของ “Fourth World”**

“Fourth World” ได้รับการยกย่องว่าเป็นอัลบั้มที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในวงการดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

ผลงานนี้ได้เปิดทางให้กับนักดนตรีหลายคนที่จะทดลองกับแนวคิดใหม่ๆ ของดนตรี ambient music และนำไปสู่การกำเนิดของแนวเพลง “Chillwave” และ “Drone Music”

นอกจากนี้ “Fourth World” ยังได้รับความนิยมในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ โดยถูกนำมาใช้เป็นดนตรีประกอบฉากในภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์หลายเรื่อง

“Fourth World” เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Brian Eno ในการผสมผสานเสียงธรรมชาติและเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างประสบการณ์ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์

อัลบั้มนี้ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีรุ่นหลัง และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ทรงคุณค่าและมีอิทธิพลมากที่สุดตลอดกาล